เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี
เคยเจอคำถาม หรือเพื่อนๆมาปรึกษาด้วยคำถามแบบนี้หรือปล่าวครับ เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี ซึ่งก็จะได้รับคำตอบต่างๆนานากันไปตามประสบการณ์ของผู้บอกเล่า ซึ่งอาจจะได้รับคำตอบไม่เหมือนกัน และก็ขึ้นอยู่กับว่าประสบการณ์ของผู้บอกเล่ากับแบตเตอรี่ลูกที่ไปเจอมานั้นเป็นอย่างไร ถ้าเป็นไปด้วยดีก็คงจะได้รับการแนำนำ ถ้าไม่ดีก็คงจะไม่แนะนำอะไรประมาณนั้น เพราะประสบการณ์กับแบตเตอรี่รถยนต์ของแต่ล่ะคนที่เจอะเจอมาไม่เหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง บางคนบอกเคยใช้ยี่ห้อนี้สุดยอด แต่บางคนบอกเคยใช้แล้วยี่ห้อนี้มันไม่เวิร์ค ซึ่งก็อาจจะทำให้เจ้าของคำถามเกิดความสับสนและไม่แน่ใจได้ เพราะการจะเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ในแต่ละครั้งเราก็อยากได้ของดีมาอยู่ในรถยนต์ของเราเป็นเรื่องธรรมดา
ต่อไปนี้จะเป็นการแนะนำว่าเราควรจะเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี จากประสบการณ์ตรงของคนขายแบตเตอรี่รถยนต์มากว่า 16 ปี ขายแบตเตอรี่รถยนต์มาแล้วเกือบทุกยี่ห้อ GS BOLIDEN BOSCH PUMA PANASONIC 3K HITACHI YUASA VARTA OPTIMA ATLAS ROCKET สัมผัสหรือทดลองใช้เอง และจากการติดตามการใช้งานของลูกค้าขาประจำและขาจร ที่เก็บเป็นบันทึกไว้เป็นข้อมูลหรือสังเกตุอาการของแบตเตอรี่แต่ล่ะลูกว่าเป็นอย่างไรหลังจากถูกติดตั้งไปแล้วและมีอายุการใช้งานเป็นอย่างไร โดยเริ่มจากการตั้งข้อสังเกตุในการติดตั้งแบตเตอรี่รถยนต์ในรถรุ่นเก่ากับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งยังมีอีกหลายข้อสังเกตุและเปรียบเทียบ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ว่าแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี โดยเริ่มจากเรื่องแรก
1. แบตเตอรี่ชนิดเดียวกันยี่ห้อเดียวกันที่ติดตั้งไปในรถยนต์รุ่นเก่าตั้งแต่ปี 1999 ลงไป กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆตั้งแต่ปี 2011 ขึ้นไป ทำไมอายุการใช้งานไม่เท่ากัน
2. แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกัน ตำแหน่งในการติดตั้งแบตเตอรี่รถยนต์คันแรกอยู่หน้ารถในห้องเครื่อง และอีกคันตำแหน่งในการติดตั้งแบตเตอรี่รถยนต์อยู่ในห้องโดยสารหรือฝากระโปรงท้าย ทำไมรถยนต์ทั้งสองคนนี้มีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไม่เท่ากัน
3. แบตเตอรี่รถยนต์ชนิดเดียวกันขนาดแอมป์เท่ากันติดตั้งในรถยนต์รุ่นเดียวกัน ซีซีเท่ากัน ทำไมมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไม่เท่ากัน
4.ทำไมแบตเตอรี่รถยนต์ที่ติดตั้งมาจากโรงงานถึงมีอายุไม่เท่ากันกับแบตเตอรี่รถยนต์ที่เปลี่ยนเข้าไปใหม่ในรถยนต์คันเดียวกัน
เริ่มจากข้อแรกทำไมแบตเตอรี่ยี่ห้อเดียวกันถูกติดตั้งในรถยนต์ต่างปีกันถึงมีอายุการใช้งานไม่เหมือนกัน อย่างนี้จะมองว่าแบตเตอรี่ยี่ห้อนี้ไม่ดีได้หรือปล่าว ถ้าใครใช้รถยนต์รุ่นเก่าๆมาก่อนและมีรถยนต์รุ่นใหม่อีกคันอยู่ในบ้าน จะตอบได้เลยว่าแบตเตอรี่รถยนต์ที่ติดตั้งในรถรุ่นเก่ามีอายุการใช้งานที่นานกว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งที่ใช้แบตเตอรี่ยี่ห้อเดียวกัน วิ่งรถระยะทางก็เท่าๆกัน ซึ่งข้อนี้ก็ขอตอบว่าปัญหาที่อายุแบตเตอรีไม่เท่ากันไม่ได้มาจากแบตเตอรี่ไม่มีคุณภาพ แต่เป็นเพราะฟักชั่นการทำงานของรถยนต์รุ่นใหม่มีมากกว่าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในการจ่ายไฟให้ฟังชั่นต่างๆมากกว่า ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ที่ติดตั้งในรถยนต์รุ่นใหม่มีอายุสั่นกว่ารถยนต์รุ่นเก่าที่ไม่มีฟังชั่นมากมายและซับซ้อน ผู้เขียนเคยลองเปลี่ยนยี่ห้ออื่นให้ลูกค้าลองแล้ว ซึ่งก็ได้ผลคลายๆกัน
เพราะฉะนั้นเราจะเปลี่ยนแบตเตอรี่รถนต์ยี่ห้อไหนดี ในเหตุผลของข้อแรก ก็ขอตอบครับว่ายี่ห้อไหนก็ได้ครับเอาที่คุ้นหูหน่อยหรือยี่ห้อที่เขียนไว้ข้างบนก็ได้ ใช้ได้หมดครับ เพราะแต่ล่ะยี่ห้อเค้าก็ผลิตด้วยมาตรฐานที่ดีเครื่องจักรทันสมัย มีเครื่องหมาย ม.อ.ก หรือ ISO รับรองด้วยกันทั้งสิ้นครับ ครั้งหน้าจะมาต่อในหัวข้อ 2, 3, 4 กันนะครับ
มาต่อกันที่หัวข้อที่ 2 กันนะครับ แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกัน แต่ถูกติดตั้งในตำแหน่งที่ต่างกัน ทำไมถึงมีอายุการใช้งานไม่เท่ากัน สำหรับหัวข้อนี้ คนที่มีประสบการณ์ในการใช้รถยุโรป น่าจะพอนึกถึงเรื่องของตำแหน่งในการติดตั้งแบตเตอรี่ออก แต่สำหรับคนที่ใช้รถญี่ปุ่น คงมีงงเล็กน้อย เพราะเคยเห็นแต่แบตเตอรี่รถยนต์ที่ถูกติดตั้งอยู่ในห้องเครื่อง สำหรับรถยนต์ตระกูลยุโรป โดยเฉพาะรถยนต์ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีอย่าง รถเบนซ์ จะมีการติดตั้งแบตเตอรี่มาจากโรงงานอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตำแหน่ง คือ หน้ารถในห้องเครื่อง ใต้เบาะหลังผู้โดยสาร และตำแหน่งสุดท้ายคือฝากระโปรงท้าย
สาเหตุสำคัญของปัญหาในหัวข้อนี้ที่ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่แตกต่างกัน ไม่ได้มาจากยี่ห้อของแบตเตอรี่ เพราะไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ยี่ห้อไหน (ต้องเป็นแบรนด์ที่คุ้นหู) ก็ให้ผลที่ไม่แตกต่างกัน สาเหตุสำคัญที่ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ที่ถูกติดตั้งในตำแหน่งที่ต่างกันมีอายุการใช้งานไม่เท่ากัน มาจากอุณภูมิโดยรอบของแบตเตอรี่ โดยที่แบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งอยู่ในห้องเครื่องจะมีอายุการใช้งานสั้นกว่าแบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง และฝากระโปรงท้าย เนื่องจากแบตเตอรี่ในห้องเครื่องต้องเจอสภาวะอุณหภูมิโดยรอบของแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างสูง ตลอดเวลาที่คุณใช้รถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ที่ติดแก๊ส หรือติดตั้งเทอร์โบ ส่วนแบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งใต้เบาะห้องโดยสาร และฝากระโปรงท้าย จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า นั่นก็เพราะอุณหภูมิโดยรอบของแบตเตอรี่ไม่สูงจนเกินไป